ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย และช่วยลดความเหลื่อมล้ำของการศึกษาในพื้นที่ห่างไกลให้สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนคุณภาพโดยมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ
คุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำทั้งในระดับนานาชาติและในประเทศเอง ต้นตอเกิดจากการขาดแคลนครูทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพโดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ครู 1 คนต้องสอน 4-5 วิชา ในขณะที่ครูในทุกพื้นที่เองก็มีภาระงานมากทั้งงานตรวจประเมินงานกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลทำให้มีเวลาดูแลเด็กน้อยลง ผลที่เกิดขึ้นก็คือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ เด็กมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเรียนรู้โดยเฉพาะในวิชาที่ยาก ส่งผลทำให้มีเด็กเลิกเรียนกลางคันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีปัญหาสังคมที่เกิดจากเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ก็จะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นด้วย
พัฒนานวัตกรรมการเรียนรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงกับคุณครูในห้อง ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านคอนเทนต์คุณภาพโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ เปลี่ยนการเรียนรู้จาก 1:40 ในรูปแบบเดิมให้เป็น 1:1 ในรูปแบบใหม่ โดยระบบการเรียนนี้ประกอบไปด้วย
คอนเทนต์คุณภาพตามหลักสูตรแกนกลาง | ระบบรายงานผล | กระบวนการในการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าไปสู่ชั้นเรียน | ||
ทั้งส่วนที่เป็นดิจิตอลไฟล์และส่วนที่เป็นตำราเรียน-แบบฝึกหัด รวมไปถึงซอฟแวร์การจัดการแกนกลางที่มีระบบทดสอบ | มีระบบรายงานผลที่ช่วยลดภาระครูได้จริง | เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียนและคุณครู ระบบนี้คุณครูสามารถปรับบทบาทจากการเป็นผู้บรรยาย (ผู้ป้อนความรู้) สู่การเป็นผู้สอน (หรือ coach ที่กระตุ้นการเรียนรู้)ได้อย่างสมบูรณ์ |
คุณภาพการเรียนการสอนในห้องเรียนสูงขึ้นช่วยแบ่งเบาภาระครู ส่งผลทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นตัวอย่างโรงเรียนสหวิทย์ที่สุพรณณบุรีมีคะแนนโอเน็ตสูงขึ้นกว่า 30% ในการใช้ระบบเพียง 3 ปี สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือเด็กมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน ส่งผลทำให้อัตราเด็กเลิกเรียนกลางคัน(Dropout)ลดลง อันจะเป็นการช่วยลดปัญหาสังคมและสร้างโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กไทยในอนาคตให้เกิดขึ้น