แนวร่วมนักลด ลด-เพื่อ-โลก : ผลประโยชน์ 4 ต่อเมื่อลดขยะได้ในองค์กร


แนวร่วมนักลด ลด-เพื่อ-โลก : ผลประโยชน์ 4 ต่อเมื่อลดขยะได้ในองค์กร

จากปัญหาก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  จึงได้ริเริ่มพัฒนา โครงการความร่วมมือ Climate Care Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือ การดูแลจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

หนึ่งในโครงการสมาชิกของ Climate Care Platform ได้แก่ โครงการ Care the Whale ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 ด้วยแนวคิด “ขยะล่องหน” กำจัดคำว่าขยะให้หายไป ร่วมกันหาทางใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด โดยใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้เพื่อดูแลและจัดการขยะอย่างถูกวิธี เป็นการร่วมแก้ไขปัญหาขยะซึ่งนำไปสู่ภาวะโลกร้อน เครือข่ายพันธมิตรมีเป้าหมายร่วมกันในเรื่อง Zero-waste to landfill ปัจจุบันมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 65 องค์กร ประกอบด้วยผู้ประกอบการที่มีที่ตั้งที่ทำการอยู่ในเขตถนนรัชดาภิเษก และนอกเขตถนนรัชดาภิเษก

 

 ด้วยการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ปัจจุบันของโครงการ Care the Whale ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี และมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกทั้งกับสิ่งแวดล้อมโดยตรง รวมไปถึงประโยชน์ที่เหล่าองค์กรพันธมิตรได้รับจากโครงการนี้ก็มีมากมายเช่นกัน หลายจุดก็เป็นสิ่งที่ทุกคนอาจคาดไม่ถึง เราไปดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ทั้ง 4 ข้อจากการที่องค์กรผลักดันให้มีการลดขยะนั้นมีอะไรบ้าง

 

 

ต่อที่ 1 ได้ช่วยโลกด้วยการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
 

เรื่องของธุรกิจและสิ่งแวดล้อมเป็นสองสิ่งที่ถ้ามองอย่างผิวเผินอาจดูไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ย่อมสร้างผลกระทบและมีผู้ได้รับผลกระทบตามมา เพราะทุกธุรกิจจะต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสวนทางกับการมีอยู่อย่างจำกัดของทรัพยากร เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการควรตระหนักอยู่เสมอว่าสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ

 

แต่เมื่อมีธุรกิจที่ตั้งเป้าหมายในการลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกได้ นั่นหมายความว่า การดำเนินกิจการไปพร้อมกับการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก และยังสามารถทำได้จริงด้วยการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

 

พันธมิตรในโครงการ Care the Whale เอง สามารถช่วยลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 47,915.52 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ หรือเทียบเท่ากับการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้จำนวน 5,323,947 ต้น (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2566) ถือเป็นสิ่งที่หลายธุรกิจควรหันกลับมาทบทวนว่านอกจากตอบสนองความต้องการของตลาดได้แล้ว เราสามารถจัดสรรทรัพยากรอย่างยั่งยืนได้แบบนี้แล้วหรือยัง

 

ต่อที่ 2 ได้ส่งต่อสิ่งดี ๆ แก่สังคม เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้น

การเริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันให้สังคมไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นได้ หนึ่งเรื่องราว ลด-เพื่อ-โลก จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการขยะ ส่วนหนึ่งนั้นเป็นการส่งต่อขยะให้ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป แทนที่จะนำไปทิ้ง

 

ตัวอย่างเช่น โครงการ “สังคม YOU เทิร์น คืนขวดพลาสติกใส พัฒนาการแพทย์” ที่นำขวดพลาสติกใสกลับมา Upcycling เป็นเสื้อโปโลเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในช่วงโควิด -19 อีกทั้งยังมีการส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับชุมชนโดยการนำหนังสือเก่าและกระดาษทุกประเภทที่ได้จากโครงการ “กระดาษเรา เล่าเรื่องให้น้อง” ไปขายต่อให้กับ SCG ในราคาสูงกว่าตลาด แล้วนำรายได้ไปมอบให้กับมูลนิธิกระจกเงา และนำหนังสือนิทานมอบให้กับเด็กในพื้นที่ห่างไกล “โครงการปีเก่า เล่าใหม่” ที่ให้นักศึกษาและบุคคลภายนอกมาจัดระเบียบโต๊ะทำงาน แล้วนำปฏิทินตั้งโต๊ะที่ไม่ใช้แล้วไปทำเป็นหนังสือและสื่ออักษรเบรลล์ มอบให้ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด จังหวัดนนทบุรี อีกทั้งยังมีโครงการ “งดหลอดเต่าปลอดภัย” ที่นอกจากจะรณรงค์ให้ลดขยะหลอดพลาสติกตั้งแต่ต้นทางแล้ว ยังสนับสนุนให้เกิดการหมุนเวียน โดยนำหลอดพลาสติกที่ใช้แล้วมาทำความสะอาด ส่งให้กับกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ตำบลทับมา จังหวัดระยอง เพื่อนำไปทำเป็นหมอนสำหรับผู้ป่วยติดเตียงเพื่อลดการเกิดแผลกดทับ นอกจากจะลดการทิ้งขยะที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศแล้ว ยังสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอีกด้วย

 

ทั้ง 4 ตัวอย่างนี้เป็นการหมุนเวียนทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังส่งต่อสิ่งดี ๆ ไปให้กับผู้คนที่เกี่ยวข้อง เป็นการขับเคลื่อนทางสิ่งแวดล้อมและสังคมไปพร้อม ๆ กัน

 

ต่อที่ 3 ลดค่าใช้จ่าย

หลายคนมักเข้าใจว่าการทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่ที่บริษัท เดอะ สตรีท รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด สามารถประหยัดค่าจ้างทิ้งขยะได้เป็นจำนวนมากจากการบริหารจัดการขยะได้อย่างถูกต้อง โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้คือ โครงการ “ขยะกำพร้า” เปิดให้บุคคลทั่วไป ร้านค้า และลูกค้า ได้ส่งต่อขยะกำพร้าไปทำพลังงาน เพื่อลดขยะไปสู่การฝังกลบ โดนดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ถึง สิงหาคม 2566 รวมกิจกรรม 11 ครั้ง น้ำหนักขยะรวม 39,780 กิโลกรัม ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทิ้งขยะไปได้เป็นจำนวนมาก

 

ต่อที่ 4 สร้างภาพลักษณ์ที่ดี

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมกันเปิดงาน Climate Care Forum 2023 : Time to Reduce “ลด-เพื่อ-โลก” ภายใต้ความร่วมมือ “Climate Care Platform” โดยในงานมีการมอบประกาศเกียรติคุณส่งเสริมและยกย่องสมาชิก Climate Care Platform เป็นจำนวน 29 องค์กรที่ดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและตัวอย่างให้กับองค์กรอื่นว่าไม่ว่าใครก็สามารถลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกได้ และมีการพูดถึง “29 เรื่องราว ลด-เพื่อ-โลก” เพื่อเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่น ๆ นำไปต่อยอดหรือปรับใช้กันต่อไป

 

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจอะไร ก็ย่อมสร้างผลกระทบและมีผู้ได้รับผลกระทบตามมา แต่ภาคส่วนธุรกิจก็หันมาสร้างผลกระทบเชิงบวก หรือส่งต่อแรงขับเคลื่อนในเชิงบวกได้เช่นกัน และผลกระทบเชิงบวกจากการลดการสร้างขยะในโครงการ Care the Whale ก็ไม่ได้จำกัดไว้เพียงเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจก หรือคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ดีในด้านสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่องค์กรที่ทำก็ได้ประโยชน์ด้านอื่น ทั้งประหยัดเงิน มีภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น อย่าลังเลที่จะเริ่มลงมือลดขยะกันตั้งแต่วันนี้ ด้วยการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

องค์กรที่สนใจ สามารถติดตามข้อมูลและร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับโครงการ Care the Whale ได้ที่ : https://climatecare.setsocialimpact.com/care-the-whale
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: SET Contect Center 02-009-9999  ติดต่อ ได้ที่ : ClimateCarePlatform@set.or.th

 

#ClimateCare #CaretheWhale

 
ผู้เข้าชม  169